28 สิงหาคม 2547

วิกิพีเดีย

ช่วงนี้กำลังเห่อวิกิพีเดีย วันนี้เข้าไปนั่งเขียนเรื่องใกล้ตัว เกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ ไปได้ห้าหรือหกหัวข้อแล้ว แปลเป็นส่วนใหญ่แหละ มีเขียนเองทั้งหมดแค่สองหัวข้อเองมั้ง เพราะอ่านภาษาอังกฤษดูแล้วก็รู้สึกว่าเขาเขียนไว้ดีแล้ว ก็แปลเลยล่ะกันง่ายดี แต่แค่แปลนี่ก็ยากแล้วล่ะ อย่างแรกคืออ่านแล้วเข้าใจ แต่ไม่รู้จะเขียนเป็นภาษาไทยว่าอะไรดี (ความสามารถในการเขียนต่ำ) อย่างที่สองคือพวกศัพท์เทคนิคจะทำยังไงดี โดยความคิดส่วนตัวแล้วอยากใช้ศัพท์บัญญัติ หรือคำไทยทั้งหมด ไม่อยากใช้ทับศัพท์ ที่ทำอยู่ตอนนี้คือเริ่มต้นจากหาในเว็บศัพท์บัญญัติของราชบัณฑิตยสถาน แต่ไม่ค่อยช่วยเท่าไหร่ เนื่องจากศัพท์ที่กำลังแปลเป็นพวกชนกลุ่มน้อย ไม่มีใครเขาใช้กัน ทำให้ราชบัณฑิตท่านยังไม่ได้บัญญัติไว้ ถ้าไม่มีที่นี่ก็จะไปหาในหนังสือของอ.บุญเสริม ซึ่งช่วยได้พอสมควร เพราะอ.จะใช้คำศัพท์ต่างๆ เป็นภาษาไทยอยู่แล้ว ถ้ายังไม่เจอ ก็จะใช้วิธีหาจาก google ใส่ภาษาอังกฤษลงไป แต่ใส่ site:th เผื่อจะมีที่เขาใช้กันโผล่มา ก็เจอบ้างเหมือนกันนะ สุดท้ายถ้าไม่มีจริงๆ ก็จะบัญญัติเอง แต่จะพยายามเลือกดูคำใกล้เคียงกับที่มีบัญญัติหรือใช้กันอยู่แล้ว หุๆๆ ไม่รู้จะเป็นยังไงเหมือนกัน แต่วิกิพีเดียดีตรงที่เสรี ถ้าใครไม่เห็นด้วยก็แก้ได้ หรือจะคุยกันก่อนก็ได้

26 สิงหาคม 2547

Mac OS X เดี้ยง

ใช้งาน Powerbook มาพักใหญ่แล้ว รู้สึกดี ไม่มีปัญหาอะไร แถมโปรแกรมต่างๆ ที่เคยใช้บน Linux ได้ก็เอามาใช้ได้หมด ทำให้สามารถทำงานได้สะดวกขึ้น จริงๆ ก็ยังมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ไม่ทำให้รู้สึกไม่ดีกับ Panther ว่าแต่ใช้มาก็ตั้งนานแล้ว เครื่องยังไม่เคยรวน หรือค้างเลย จนกระทั่งเมื่อวานจะเข้าไปดูวิดีโอที่เป็นไฟล์ wmv ซักหน่อย เลยเอา Media Player ของ Microsoft มาลง เขามีแจกให้ฟรีอยู่แล้ว พอเปิดดูปรากฎเครื่องค้างหยุดทำงานไปเลย ทำได้อย่างเดียวคือกดสวิทช์ค้างไว้เพื่อตัดไฟ แล้วค่อยเปิดเครื่องใหม่ อืม....สมเป็น Microsoft จริงๆ ขนาดบน Mac ซึ่งไม่เคยมีปัญหา ก็ยังทำให้เดี้ยงได้ ไม่รู้ไปทำอะไรไว้ในโปรแกรม

จริงๆ แล้ว ผมไม่ได้รังเกียจ หรือตั้งแง่อะไรกับ Microsoft หรอกนะ ผมยังรู้สึกด้วยว่าโปรแกรมของไมโครซอฟท์หลายๆ ตัวก็ใช้งานได้ดี อย่างตอนนี้ก็ชอบ VB.Net กับ C# แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ชอบก็คือนโยบายการผลิตโปรแกรม ผมรู้สึกว่าเขาเน้นผลิตโปรแกรมให้มีฟังก์ชันการทำงานเยอะๆ และเน้นความสะดวกสบายจนเกินไป ซึ่งทำให้ละเลยปัญหาต่างๆ ที่จะตามมา อย่างเช่น Outlook เดิมก็เน้นที่ความสะดวก ทำให้สามารถรันแมคโคร หรือรันโปรแกรมทันทีที่เปิดเมล ทำให้เกิดปัญหาไวรัสหรือความปลอดภัยมากมายจนถึงวันนี้ก็ยังมีโปรแกรมออกมาแก้เรื่อยๆ หรืออย่างเมื่อไม่นานมานี้ ก็อ่านเจอว่าเขาพยายามทำให้ XP รันโปรแกรมเก่าๆ ได้ โดยยอมแก้ปรับ XP ให้ทำงานแตกต่างออกไป เมื่อเจอโปรแกรมที่ระบุไว้ อย่างถ้าเจอ simcity.exe ก็ให้ใช้ระบบจัดการเมมโมรี่อีกแบบหนึ่ง เรื่องอย่างนี้แหละที่ผมไม่ค่อยชอบ เพราะผมเชื่อว่ามันจะทำให้เกิดปัญหามากมายแก้ยังไงก็ไม่จบ เพราะการทำงานไม่เป็นไปในทางเดียวกัน เกิดปัญหาขึ้นมาคงหากันแย่ อีกอย่างที่ไม่ชอบก็คือพวกฟังก์ชันอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น autocorrect ใน Microsoft Office ที่พยายามแก้อักษรต้นประโยคให้เป็นตัวใหญ่เสมอ ทำไมจะต้องกำหนดให้เปิดใช้งานไว้เลยก็ไม่รู้ ปิดไว้ก่อน แล้วให้ผู้ใช้เปิดใช้เองไม่ได้เหรอ ผมหงุดหงิดมาหลายทีแล้ว เราจะพิมพ์ตัวเล็กมันก็ไม่ยอม จะเปลี่ยนเป็นตัวใหญ่ท่าเดียว แล้วก็จะต้องเสียเวลาไปหาว่ามันจะปิดได้ที่ไหน ฟังก์ชันนึ้ไม่เคยใช้ซักที เพราะตัวใหญ่เวลาขึ้นประโยคเราก็พิมพ์เองอยู่แล้ว หรือพวกพิมพ์แล้วแก้ให้เลยก็ไม่เห็นจำเป็น พิมพ์ให้เสร็จทั้งหมดแล้วตรวจสะกดคำทีหลังก็ได้ ทำไมจะต้องมาวุ่นวายกับเราด้วย หรืออย่าง MSN Messenger ไม่จะต้องกำหนดให้เปิดเสมอเมื่อบูตเครื่อง ปิดไว้ก่อนไม่ได้เหรอ ถ้าอยากใช้แล้วไปกำหนดให้เปิดเองแหละ

วันนี้บ่นเยอะเลยแฮะ แต่หงุดหงิดมานานแล้ว เพราะดูเหมือนเราถูกยัดเยียดให้ใช้อะไรที่ไม่ต้องการ ไม่รู้ว่าคนอื่นจะคิดอย่างนี้หรือเปล่า คนที่ชินกับ autocorrect อาจจะรู้สึกว่าสะดวกก็ได้ เราอาจจะเป็นพวกหัวเก่าก็ได้ เพราะเติบโตมากับโปรแกรมบนดอสที่ไม่มีอะไรอย่างนี้ อยากใช้อะไรต้องอ่านแล้วใช้ให้ถูกต้องตามที่กำหนดถึงจะใช้งานได้ แล้วก็ยังเป็นพวกที่ชอบใช้ command-line มากกว่า GUI เพราะรู้สึกว่าสะดวกกว่า ได้ดังใจกว่า บ่นพอแล้ว ไปทำงานต่อดีกว่า

CD และ DVD ในแผ่นเดียวกัน

วันนี้เจอข่าวใน slashdot.jp เรื่อง DualDisc เมื่อวันก่อนมีการประกาศแผนสร้างแผ่น CD/DVD แบบใหม่ร่วมกันระหว่างหลายบริษัท (ตั้งเป็นกลุ่มชื่อ DualDisc Consortium) แผ่นแบบใหม่นี้จะทำหน้าหนึ่งเป็น CD แล้วอีกหน้าหนึ่ง DVD อยู่ในแผ่นเดียวกัน ทำให้สามารถทำแผ่นประเภทหน้าหนึ่งเป็นหนังเก็บในรูปแบบ DVD ส่วนอีกหน้าหนึ่งเป็นเพลงประกอบหลังเก็บในรูปแบบ CD ได้ โดยจะสามารถใช้งานกับเครื่องเล่นเดิมได้ เห็นว่าน่าจะวางขายแผ่นแบบนี้ได้ราวเดือนตุลานี้ น่าสนใจๆ

23 สิงหาคม 2547

วิ่งมาราธอน

เมื่อคืนเผลอหลับไปตอนหัวค่ำ ทำให้ตื่นมากลางดึกแล้วนอนไม่หลับ เลยเปิดทีวีดูโอลิมปิก มีแข่งวิ่งมาราธอนหญิงซึ่งญี่ปุ่นก็ถือว่าเป็นตัวเก็ง เพราะคราวที่แล้วคิวจังเคยได้เหรียญทองมาแล้ว คราวนี้ญี่ปุ่นส่งนักกีฬาหญิงไปสามคน จริงๆ ก็ไม่ค่อยสนใจวิ่งมาราธอนเท่าไหร่ เพราะรู้สึกว่าเป็นกีฬาที่ไม่น่าจะตื่นเต้น เนื่องจากวิ่งกันไกลเหลือเกิน น่าจะพอรู้อยู่แล้วว่าใครจะชนะ แบบว่าไม่น่าจะต้องลุ้นอะไรมาก แต่ไม่รู้จะดูอะไร เลยดูเรื่อยเปื่อย เริ่มแรกนักวิ่งก็ยังเกาะกลุ่มกันดี กลุ่มนำมีอยู่ประมาณสิบกว่าคน ปรากฏว่าญี่ปุ่นเกาะอยู่ในกลุ่มนี้ทุกคน เก่งแฮะ พอวิ่งไปถึงประมาณ 20 กว่ากิโล กลุ่มเริ่มแตก เหลือญี่ปุ่นกับเอธิโอเปียนำอยู่สองคน พอถึง 25 กิโล นักกีฬาญี่ปุ่นชื่อโนะกุจิ ก็เร่งความเร็วออกนำเอธิโอเปียเรื่อยๆ แล้วก็กลายเป็นผู้นำอยู่คนเดียว ส่วนนักกีฬาเอธิโอเปียความเร็วตก ถูกนักวิ่งจากอังกฤษ(เจ้าของสถิติโลก) กับเคนยาแซงไปได้ ญี่ปุ่นยังนำที่สองอยู่ประมาณ 30 วินาที พอถึง 36 กิโลปรากฎว่านักวิ่งจากอังกฤษเกิดหมดแรง หรืออะไรไม่รู้ หยุดวิ่งไปเฉยๆ ทำให้ญี่ปุ่นเป็นที่หนึ่ง ตามด้วยเคนยา สองคนนี้ห่างกันประมาณ 15 วินาที พอเข้าช่วงสุดท้าย เคนยาพยายามเร่งความเร็วหวังแซงญี่ปุ่นจนเข้ามาใกล้กันแค่ระยะประมาณ 10 วินาที แต่เร่งไม่ทัน ญี่ปุ่นเข้าเส้นชัยไปก่อนคว้าเหรียญทองไปครองได้สำเร็จเป็นครั้งที่สอง

ดูถ่ายทอดครั้งนี้แล้ว ตอนท้ายๆ รู้สึกลุ้น เพราะเคนยาเร่งความเร็วขึ้นมาเรื่อยๆ จนภาพบางมุมจะเห็นว่าใกล้กันมากจนน่าจะแซงได้ ว่ากันว่าคอร์สวิ่งครั้งนี้โหดมาก เพราะช่วง 25 กิโลจะเป็นทางขึ้นเขาตลอด แล้วจะมาลงเขาอีกทีตอนช่วงสุดท้ายเท่านั้น ฟังจากนักกีฬาญี่ปุ่นที่ให้สัมภาษณ์แล้วบอกว่าวิ่งไปตามแผนที่วางไว้ เนื่องจากตัวเองถนัดวิ่งขึ้นเนินมากกว่าวิ่งลงเนิน เลยต้องพยายามเร่งความเร็วช่วง 25 กิโลให้มากที่สุด เพราะช่วงท้ายที่เป็นทางลงเนินอาจจะวิ่งได้ช้าลงเนื่องจากไม่ถนัด แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะช่วงขึ้นเนินเธอวิ่งได้ดี ทิ้งห่างไปค่อนข้างไกล แล้วจะถูกไล่ตอนช่วงท้าย แต่เนื่องจากมีระยะจำกัดทำให้เธอสามารถเข้าเส้นชัยได้ก่อน เลยทำให้ได้ลุ้นตอนท้ายว่านักวิ่งจากเคนยาจะตามทันไหม

20 สิงหาคม 2547

P2P

เมื่อวานเข้าไปอ่านเรื่องของคนเขียนโปรแกรม Winny ซึ่งเป็นโปรแกรมส่งไฟล์แบบ P2P พัฒนาโดยคนญี่ปุ่น แล้วเมื่อประมาณปลายปีที่แล้ว มีคนญี่ปุ่นสองคนโดนตำรวจจับข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์เนื่องจากนำไฟล์หนังมาเผยแพร่ คนพัฒนาโปรแกรมก็โดนตำรวจจับไปด้วย เนื่องจากถือว่ามีส่วนช่วยละเมิดลิขสิทธิ์ ตอนนี้คดีอยู่ในชั้นศาล ทีนี้มีคนเห็นว่าคนพัฒนาโปรแกรมไม่น่าจะผิด เพราะไม่ได้ส่งเสริมให้ใครละเมิดลิขสิทธิ์ ในโปรแกรมและคู่มือการใช้ ก็มีคำเตือนไว้แล้ว เลยมีการขอบริจาคเงินเพื่อช่วยคนพัฒนาโปรแกรมสู้คดี เห็นว่าได้เงินประมาณ 15 ล้านเยน ตอนนี้ได้ประกันตัวมาแล้ว แต่ไม่รู้คดีจะเป็นยังไง ส่วนอีกสองคนที่โดนจับตอนแรก สืบพยานไปได้ 4 ครั้งแล้ว มีคนไปฟังแล้วเอาให้อ่านด้วย ที่นี่

วันนี้อ่านข่าวเจอเรื่องคล้ายๆ กัน จาก MYCOM PC WEB มีข่าวเกี่ยวกับคดีที่อเมริกา เห็นว่าศาลตัดสินว่าคนพัฒนาโปรแกรมไม่ผิด

19 สิงหาคม 2547

ข่าวเลือกตั้ง

เมื่อเช้าดูข่าวจากรายการทางช่อง 8 มีข่าวเกี่ยวกับปัญหาการเลือกตั้งกำนันในจังหวัดชิบะ มีคนลงสมัครสองคน ผู้ที่ได้รับเลือกเป็นกำนันได้คะแนนมากกว่าแค่ 1 คะแนน คนแพ้ไม่ยอมก็เลยขอให้กรรมการพิจารณาบัตรเสียใหม่ เพราะคิดว่าอาจจะมีดูไม่ดี กรรมการเลยนับใหม่ ปรากฏว่าคนแพ้ได้เพิ่มมา 10 เสียง ส่วนคนชนะได้เพิ่มมา 11 เสียง กลายเป็นว่าต่างกัน 2 คะแนน แพ้อยู่ดี คนแพ้ยังไม่ยอมอีก เห็นว่าจะไปฟ้องศาลขอให้พิจารณาเรื่องบัตรเสียใหม่

เหตุที่สนใจแต่บัตรเสีย เพราะว่าเวลาญี่ปุ่นลงคะแนนเขาไม่ได้ทำเครื่องหมายในช่องแบบคนไทย แต่ใช้วิธีให้เขียนชื่อคนที่จะเลือกลงไป ที่นี้ก็จะมีคนเขียนผิดบ้าง ซึ่งตอนแรกกรรมการก็จะตัดออก แต่พอถูกร้อง กรรมการก็เลยยึดคำพิพากษาของศาลเมื่อหลายปีก่อนเป็นหลัก คือ แม้ว่าจะเขียนผิด แต่ถ้าแสดงเจตนาได้ว่าจะเลือกใคร ก็ให้ถือว่าเป็นบัตรดี เลยทำให้มีบัตรหลายใบ ที่ถือเป็นบัตรดี ประเภทใช้คันจิผิดตัวบ้าง เขียนหวัดเกินไปบ้าง ก็อนุโลมให้ และเพื่อความโปร่งใส กรรมการก็เลยเอารูปบัตรเสีย ที่พิจารณาใหม่ว่าเป็นบัตรดีมาแจกจ่ายให้ดูกันชัดๆ แต่ในนั้นยังมีอยู่กลุ่มหนึ่งที่กรรมการพิจารณาว่าเป็นบัตรดี แต่เขียนแปลกๆ คือ เขียนนามสกุลคนหนึ่ง แต่เขียนชื่อก็อีกคนหนึ่ง เอามารวมกัน ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะชื่อสองคนคล้ายกันมากระหว่าง นะโอชิ กับ ซะโตชิ อาจจะจำกลับกัน กรรมการเลยอนุโลมว่ายึดนามสกุลเป็นหลักตามแบบญี่ปุ่น แล้วบัตรในกลุ่มนี้ ดันเป็นของคนชนะ 9 ใบ ของคนแพ้ 2 ใบ เรื่องเลยไม่จบ เพราะคนแพ้บอกว่าคนที่เรียกเขาด้วยชื่อก็มีเยอะนะ เลยไปฟ้องศาลให้พิจารณาใหม่ นักข่าวไปถามชาวบ้านแถวนั้น ปรากฏว่าส่วนใหญ่รู้จักแต่นามสกุล มีเรียกชื่อบ้างเหมือนกันไม่กี่คน ประเภทเคยเรียนประถมรุ่นเดียวกัน ไม่รู้ผลจะออกมาเป็นยังไง แต่ฟังข่าวแล้วฮาดี ส่วนคนในรายการก็บอกว่าต่อไปน่าจะออกกฎเกณฑ์สำหรับพิจารณาให้แน่นอนกว่านี้ แล้วบอกไปก่อนเลยว่าต่อไปนี้ถ้าเจอแบบนี้จะเอายังไง จะได้ไม่มีปัญหา แต่ฟังแล้วทำไมเขาไม่ให้กากบาทเลือกเอานะ พิจารณาง่าย ถึงแม้ว่าอาจจะมีแบบกาผิดช่องบ้าง ก็ถือว่ายกประโยชน์ไป ก็ดีเหมือนกันนะไม่ต้องมาทะเลาะกันอย่างนี้ให้เสียเวลา จริงๆ แล้วบัตร 11 ใบนั้นอาจจะมีคนจงใจแกล้งเขียนอย่างนั้นก็ได้

18 สิงหาคม 2547

วันหยุด

ตอนนี้ปิดเทอมหน้าร้อน ได้วันหยุดเพิ่มให้สามวันนอกเหนือจากวันหยุดประจำปี เลยว่าจะกลับเมืองไทยล่ะกัน เพราะถ้าไม่ใช้ภายในสิ้นเดือนกันยา สามวันนี้จะหายไป ใช้ไม่ได้อีกแล้ว เป็นคนทำงานนี่ก็ลำบากเนอะ ไม่เหมือนตอนเป็นนักเรียนหยุดได้ยาวๆ ไม่ต้องคิดอะไร ที่นี้พอไปทำเรื่องลา มีหลายคนทักมาว่าลองดูให้ดีๆ นะ ว่าเขาคิดวันหยุดแบบราชการไทยหรือเปล่า คือถ้าลาคร่อมวันหยุดหรือวันเสาร์อาทิตย์จะนับวันหยุดนั้นเป็นวันลาด้วย เลยไปถามคุณเลขาเพื่อให้แน่ใจ ตอนแรกก็กะว่าจะให้คุณเลขาช่วยไปถามต่อให้หน่อย เพราะราชการญี่ปุ่นก็ไม่ต่างจากราชการไทย ระเบียบหยุมหยิมยุ่งยากจนน่าเบื่อ ปรากฏว่าคุณเลขาทำหน้างงๆ กับคำถาม แล้วตอบทันทีเลยว่าระบบอย่างนั้นไม่มีแน่ๆ เกิดมาไม่เคยได้ยินมาก่อน แกให้เหตุผลว่าก็วันหยุดเดิมเป็นสิทธิของเราอยู่แล้ว วันลาก็เป็นสิทธิของเราที่จะลา (ถ้าไม่เกินที่กำหนดไว้) เพราะฉะนั้นจะมานับซ้ำซ้อนกันไม่ได้ เพราะเหมือนมาตัดสิทธิเดิมของเรา คิดอีกทีก็จริงอะเนอะ แต่ถ้าคิดถึงระบบเมืองไทย คนออกระเบียบคงจะกลัวว่าเจ้าหน้าที่หรือข้าราชการจะหนีไปเที่ยวกันยาวๆ ส่งผลกระทบต่องานมั้ง เลยออกกฎมากันไว้ก่อน จะได้ลากันยาวๆ ไม่ได้ ก็มีเหตุผลอะนะ แต่ยังไงก็ชอบแบบแรกอะ เพราะได้หยุดเยอะดี บังเอิญช่วงที่จะลามีวันหยุดราชการเพิ่มมาสองวันด้วย ลาสามวัน ได้วันหยุดต่อกันเก้าวันเลย หุๆๆๆ แต่ถึงจะหยุดยาวๆ ใช่ว่าจะหายไปเลยนี่นา ก็ต้องคอยตอบเมลเกี่ยวกับงานอยู่ดีแหละ มีสิทธิแล้วก็ขอใช้หน่อยเถอะครับ

ข้อมูลรั่วไหล

ได้ยินข่าวข้อมูลส่วนตัวของลูกค้ารั่วมาหลายข่าวตั้งแต่ Softbank BB แล้ว แต่ไม่ค่อยได้ติดตาม เพราะว่าค่อนข้างไกลตัว วันนี้เจอข่าวใหม่ ใกล้ตัวมากขึ้นเพราะรั่วจากบริษัทบัตรเครดิตที่เป็นสมาชิกอยู่ เห็นว่ารั่วไปประมาณ 480,000 กว่าคน ตามข่าวดูเหมือนเราจะไม่เกี่ยว แต่จะแน่ใจได้ยังไงเนี้ย จริงๆ รั่วไปแล้ว แต่บริษัทยังไม่รู้ก็ได้ ส่วนสาเหตุการรั่วนั่น ดูเหมือนจะมาจากคนใน เฮ้อ...อย่างนี้ถึงจะสร้างระบบแข็งแกร่งเท่าไหร่ก็คงกันยากอะนะ

ยุคนี้กลายเป็นยุคที่ข้อมูลมีค่ามหาศาลไปแล้วล่ะเนอะ ยิ่งพวกข้อมูลส่วนตัวด้วย พวกบริษัทขายของทั้งหลายคงอยากได้ เพราะต้องการส่งจดหมายมาโฆษณา หรือทำการตลาดต่างๆ ซึ่งญี่ปุ่นมีแปลกๆ เยอะ แต่อยากรู้จริงๆ ว่าทำอย่างนั้น ได้ประโยชน์จริงหรือ สำหรับตัวเองแล้ว ทุกวันนี้ก็มีใบปลิวต่างๆ มาใส่ตู้จดหมายไว้เสมอจนเต็มตู้ แต่ก็โยนทิ้งตลอด ไม่เคยเหลือบดูเลย แล้วอย่างเซลล์ที่มาขายของตามบ้านเนี้ย เคยดูในรายการทีวีว่า เขาจะทำเครื่องหมายเล็กๆ ไว้ที่ประตูบ้านด้วย ประเภทว่าบ้านนี้เคยซื้อของกับเขา เพื่อบอกเพื่อนร่วมอาชีพ แล้วบ้านนั้นก็จะโดนเรียกซื้อของตลอด รวมทั้งอาจจะถูกหลอกด้วย เดี๋ยวนี้เลยต้องพยายามสำรวจประตูบ้านว่ามีเครื่องหมายอะไรแปลกๆ หรือเปล่า ถ้ามีจะแกะออก หรือลบออกเสมอ ไม่นานมานี้ก็เพิ่งแกะสติกเกอร์เล็กๆ ออกไปสองอัน แล้วก็จะไม่ขานรับเวลามีคนมาเรียก แม้ว่าจะอยู่บ้าน เพราะขี้เกียจคุย ขี้เกียจปฏิเสธ แล้วส่วนใหญ่จะรู้ก่อนอยู่แล้วว่าใครจะมาบ้าน บางทีเขาคงจะรู้ล่ะมั้งว่าอยู่บ้าน เลยพยายามกดกริ่ง แล้วก็เคาะประตูเรียกอยู่สองสามที บางทีก็รู้สึกสงสารคนทำอาชีพนี้เหมือนกันนะ เพราะมีคนไม่ดีมาแฝงอยู่ ทำให้คนส่วนใหญ่คิดว่าเป็นอาชีพที่ไม่ดีไปซะหมด แต่จะให้เปิดประตูไปคุยกับเขา ก็คิดว่ายังไงก็ไม่ซื้อหรอก ทำอย่างนี้ดีกว่าเขาจะได้ไม่ต้องมาหวังว่าจะขายเราได้ แล้วไปหาบ้านอื่นที่สนใจจริงๆ ดีกว่า นอกจากนี้ตามความคิดส่วนตัวแล้ว ถ้าจะซื้อสินค้าอะไรซักอย่าง เราจะต้องไปแสวงหาความรู้ หาข้อดี ข้อเสียเองก่อน แล้วจะตัดสินใจซื้อเอง ไม่ต้องมาอธิบายอะไรหรอก ยุคนี้แล้วหาความรู้เองได้

17 สิงหาคม 2547

MS Office

วันนี้่คุณเลขาประจำแล็บมาขอให้ไปช่วยแก้ปัญหาให้หน่อย เรื่องของเรื่องคือเวลาแกเปิดไฟล์ของ MS Word หรือ Excel บางไฟล์ แล้วมักจะมีข้อความขึ้นมาเตือนทำให้ต้องคอยคลิก ok วันละหลายๆ ครั้ง พอไปลองดูแล้วปัญหาแรกเกิดจากโปรแกรมพยายามจะรันมาโคร PDFMaker ที่มา Acrobat แต่เนื่องจากตั้งระดับความปลอดภัยไว้สูง ก็เลยขึ้นมาเตือนทุกครั้ง จากการสอบถามดูเหมือนว่าจะไม่เคยใช้ PDFMaker เลย วิธีจัดการที่ง่ายก็คือ เอาออก เป็นอันจบ ปัญหาที่สองดูเหมือนจะคล้ายๆ กัน เพียงแต่ว่ามันไม่ขึ้นมาว่าจะรันมาโครอะไร แถมเป็นกับไฟล์ข้อมูล Excel เพียงไฟล์เดียวด้วย จะลบทิ้งก็ไม่ได้ เพราะมันไม่ยอมแสดงให้เห็น (สังหรณ์ในใจว่าติดไวรัสหรือเปล่าเนี้ย) พยายามทุกวิถีทางที่จะลบมาโครที่มันขึ้นมาบ่น แต่ก็ไม่เห็นมีตรงไหนยอมให้ลบเลย บอกว่าไม่มี สุดท้ายแก้ไม่ถูก เลยคิดจะเลิกใช้ไฟล์นี้หาทางเอาข้อมูลไปไว้ไฟล์ใหม่ มาโครไม่น่าจะตามไปด้วย เลยลองไปเลือกไฟล์แบบต่างๆ ดู ปรากฏว่าอาทิตย์ก่อนคุณเลขาเพิ่งเปลี่ยนมาใช้ MS Office 2003 เลยมีให้เก็บเป็น XML ตอนสั่งเก็บมีขึ้นมาบ่นนิดหน่อยว่ามาโครจะหายนะ เออ..นั่นแหละที่ต้องการ เก็บเสร็จเปิดมาใหม่ หน้าตายังเหมือนเดิมแฮะ แล้วก็ไม่มีมาโครมารบกวนใจ สูตรต่างๆ ที่ใช้ก็ยังเหมือนเดิม เป็นอันว่าใช้ไฟล์ใหม่เลยล่ะกัน ของเก่าทิ้งไปเลย เป็นอันจบ ปิดคดีได้

ทำเสร็จมานั่งนึกๆ ดู ต่อไปน่าจะบอกให้คุณเลขาใช้ XML ไปตลอดเลยก็น่าจะดี มีปัญหาอะไรก็เข้าไปแก้ในไฟล์ได้ ไม่ต้องเป็นอย่างตอนแรกที่แก้อะไรก็ไม่ได้ เพราะเป็นไฟล์ที่ไม่เปิดเผยรูปแบบ นี่แหละหนา ถึงได้ไม่ค่อยชอบโปรแกรมต่างๆ ของไมโครซอฟท์ แล้วก็ดิ้นรนมาใช้ลินุกซ์ ใช้แมค เพราะชอบทำอะไรลึกลับซับซ้อน ปกปิดไปซะหมด ถ้าไม่มีปัญหาอะไรก็โอเคแหละ แต่พอมีปัญหาขึ้นมาทีแก้อะไรไม่ได้เลย ทำอะไรแบบเปิดๆ ให้แก้ไขเองได้ดีกว่า ผู้ใช้ทั่วๆ ไป อย่างคุณเลขาแกคงไม่เข้าไปยุ่งกับไฟล์นั้นเองหรอก ส่วนสาเหตุของไฟล์เก่านั้นเกิดจากอะไรตอนนี้ก็ยังไม่ได้สืบต่อ แต่โอกาสเจอไวรัสก็น่าจะสูงเหมือนกัน แต่ตั้งระดับความปลอดภัยไว้สูงแล้ว ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะคิดว่ายังไม่เคยได้รัน ได้แต่บ่น

โปรแกรมที่อาจเปลี่ยนไปเมื่อใช้ Windows XP SP2

Service Pack 2 ของ Windows XP รุ่นภาษาอังกฤษกับเยอรมันจะคลอดออกมาหลายวันแล้ว แต่เนื่องจากใช้รุ่นภาษาญี่ปุ่นอยู่ แถมความเป็นผู้ใช้ Windows ก็ลดลงเรื่อยๆ คือใช้เฉพาะเปิดไฟล์ MS Office อย่างเดียว เลยยังไม่ได้แต่ต้อง SP2 แต่อย่างใด วันนี้ได้ข่าวจาก osnews.com ว่า Microsoft ออกบทความเกี่ยวกับโปรแกรมที่อาจจะทำงานแตกต่างจากเดิมหลังจากติดตั้ง SP2 แล้ว ลองดูแล้วยาวเป็นหางว่าวเลย รวมทั้งโปรแกรมของ Microsoft เองด้วยทั้ง MS Office หรือ Visual Studio เจออย่างนี้ถึงรุ่นภาษาญี่ปุ่นออกมาก็รอไปก่อนดีกว่า ถึงแม้ว่า SP2 จะทำให้ปลอดภัยมาขึ้น แต่ถ้ามีปัญหาอย่างนี้ก็ไม่ไหวล่ะ แล้วตอนนี้ที่แล็บใช้ Firewall อยู่แล้ว พวก packet ประหลาดๆ ก็โดนกันหมดแล้ว น่าจะยังโอเคมั้ง รอไว้ให้เขาจัดการกันให้เสร็จก่อน แล้วค่อยลอง SP2 ดีกว่า

13 สิงหาคม 2547

เปลี่ยนชีวิตให้เป็นการ์ตูน

เพิ่งอ่านเจอใน /. เกี่ยวกับการเปลี่ยนภาพถ่ายให้เป็นภาพการ์ตูน ซึ่งเคยได้เห็นงานวิจัย มาสองสามปีแล้ว แต่วันนี้มีข่าวผลการวิจัยจาก Microsoft Research ว่าเขากำลัง ทำระบบที่สามารถเปลี่ยนวิดีโอเป็นการ์ตูนที่เคลื่อนไหวได้ โดยใช้หลักการเดิม คือเอาแต่ละเฟรมมาแปลงเป็นภาพการ์ตูน แต่ทำทันทีคงไม่ได้ เพราะภาพที่ได้คงจะไม่ต่อเนื่องกัน การแปลงรูปแต่ละครั้งคงจะได้ผลออกมาไม่เหมือนกันทีเดียว ตอนแรกก็เลยต้องอาศัยแรงงานคนเพื่อกำหนด บริเวณต่างๆ ซึ่งใช้เวลานานมาก เพราะต้องทำทุกเฟรม พอมาถึงงานวิจัยนี้ระบบจะวิเคราะห์เพื่อหาจุดในแต่ละเฟรมที่ถือว่าจุดในบริเวณเดียวกัน จะได้ใช้สีที่ใกล้เคียงกัน ทำให้ผลที่ได้ดูเนียนมากขั้น แต่ก็ยังต้องอาศัยแรงงานคนในการกำหนดบริเวณในเฟรมหลักๆ เพื่อให้ระบบทำงานได้ดี เขาไม่ได้พูดถึงอัลกอริทึมที่ใช้ แต่คิดว่าน่าจะใช้พวก clustering หรือ classification มาช่วยจัดจุดในเฟรมย่อย ให้อยู่ในกลุ่มเดียวกับบริเวณที่กำหนดในเฟรมหลัก อยากรู้จังว่าระบบจะแยกได้ด้วยหรือเปล่าว่าเฟรมย่อยไหนแตกต่างออกไป จนถือเป็นเฟรมหลักได้แล้ว ไม่รู้มีตีพิมพ์ผลการวิจัยไว้ที่ไหนหรือเปล่า อยากอ่านรายละเอียดจัง ว่าแต่เขามีผลที่ได้มาให้ดูด้วยแหละ แต่เข้าไม่ได้สงสัยโดนคน /. รุมอยู่แน่เลย ไว้ค่อยดูวันหลังล่ะกัน

12 สิงหาคม 2547

FreeCIV

หลังจากวันก่อนนั่งรำลึกถึง Civilization ทำให้เกิดความอยากเล่น แต่ก็จนใจเพราะไม่มีซีดี ไม่รู้จะเอาจากไหน (ไม่อยากซื้อ) เลยไปเอา FreeCIV มาลองเล่นบน Gentoo ที่บ้าน (emerge ได้เลย) เขาแยกโปรแกรมออกจากกันระหว่าง client กับ server ถึงแม้ว่าเราจะเล่นคนเดียว ก็ต้องเปิด server แล้วต่อเข้าไป จากนั้นค่อยกำหนดให้สร้าง AI ขึ้นมาแข่งกัน client หน้าตาสวยงามดี เขียนด้วย gtk2 ลองเล่นได้นิดหน่อย ชักเริ่มติดแล้ว

FreeCIV นี่รู้สึกว่าใกล้เคียงกับ CIV2 มากที่สุด เหมือนไปทุกๆ อย่าง ตั้งแต่ความรู้ต่างๆ หน่วยรบ รวมถึงวิธีการเล่น ทำให้หวนรำลึกถึงความหลังได้ดี ตอนนี้เริ่มอยากลองเล่นหลายๆ คนดู แต่จะหาใครมาเล่นด้วยได้บ้างเนี้ย ที่จริงก็เล่นบนวินโดว์ได้นะ แต่ต้องเอา gtk+ มาลงก่อน ดูท่าทางยุ่งยาก สงสัยหาคนเล่นด้วยยาก

BSD แบบต่างๆ

เจอข่าวใน osnews.com ว่ามีบทความเปรียบเทียบ BSD แบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น FreeBSD, NetBSD, OpenBSD, ... ยังไม่ได้อ่านหรอกเก็บไว้ก่อน

10 สิงหาคม 2547

Civilization 4

วันนี้เกิดนึกถึงเกม Civilization ซึ่งเคยเล่นมาตั้งแต่เวอร์ชันแรก แบบที่ยังเป็นสองมิติ จนถึงเวอร์ชันปัจจุบัน ซึ่งก็คือ Civilization III ทำให้อยากรู้ว่าเขาทำเวอร์ชันใหม่กว่านั้น ออกมาขายหรือยัง เพราะเวอร์ชัน 3 ก็ออกมาสักสองสามปีได้แล้ว วันนี้ลองไปค้นเน็ตดู ปรากฏว่ายังไม่มี แล้วก็เจอเว็บของแฟนเกม มีคนมาเล่าว่า Soren Johnson ซึ่งเป็น Project Leader ของ CIV รุ่นต่อไป ไปพรีเซนท์ที่ Game Developers Conference เมื่อไม่นานมานี้ เขาพูดถึงสิ่งที่จะเกิดใน Civilization 4 ไว้นิดหน่อย เช่น จะเขียนสร้างเกมใหม่ทั้งหมด ซึ่งน่าจะทำให้สามารถเล่นได้หลายคน และทำให้สามารถสร้างโมดูลเพิ่มเติมได้ง่าย นอกจากนี้เขายังบอกว่า จะคำนึงถึงความต้องการของแฟนๆ เกมทั้งหลาย ฟังแล้วน่าสนใจดีแฮะ แต่คงอีกเป็นปีแน่เลย กว่าจะออกมาให้เล่นกัน คิดแล้วอยากเล่น Civilization 3 อะ จะไปหาได้ที่ไหนเนี้ย... ไว้เอา freeciv มาลองไปพลางๆ ล่ะกัน

09 สิงหาคม 2547

คุณชารท์แบตมือถือบ่อยแค่ไหน

เจอข่าวจาก itmedia.co.jp เกี่ยวกับการสำรวจการใช้งานโทรศัพท์มือถือเกี่ยวกับการชาร์ทแบต พบว่าคนใช้มือถือ เกือบ 80% เคยมีปัญหากับแบต และ 18% รู้สึกว่าทำให้เกิดความเครียด นอกจากนี้ยังพบว่าคนส่วนใหญ่ (45%) จะชารต์แบตทุกวัน และถ้าไม่มีข้อจำกัดเรื่องแบต ก็คงจะสามารถใช้อินเตอร์เน็ต เล่นเกม และดูทีวีได้มากขึ้น

อ่านแล้วน่าสนใจดี เพราะช่วงนี้บริษัทมือถือมีบริการประเภทจ่ายราคาเดียว แต่ใช้อินเตอร์เน็ตได้ไม่จำกัด แถมความเร็วก็สูงขึ้น ทำให้คนเข้าเน็ตไปใช้งานเยอะขึ้น เลยน่าจะมีส่วนทำให้คนเริ่มรู้สึกถึงข้อจำกัดของแบตเตอรี่ โดยส่วนตัวแล้ว ตอนก่อนขอบใช้มือถือส่งเมลเหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาอยู่บนรถไฟ เพราะช่วยฆ่าเวลาได้ดี แถมยังถูกด้วย เมลละบาทเดียวเอง แต่พอย้ายมาอยู่บ้านนอก ขี่จักรยานไปทำงาน มือถือกลับไปทำหน้าที่เดิม คือเอาไว้คุยอย่างเดียว เพราะไม่รู้จะกดเมลตอนไหน ที่จริงตอนนี้ถ้าไม่มีมือถือก็คงไม่รู้อะไรล่ะ เพราะไม่ค่อยได้ใช้อะ แต่ยังใช้มือถืออยู่เพราะมันถูกกว่าติดโทรศัพท์บ้าน

Tor

Tor นี่ไม่ใช่ชื่อเล่นของใคร แต่เป็นระบบที่ทำให้เราสามารถท่องเว็บได้โดยไม่มีใครรู้ว่าเราเป็นใคร ตอนนี้กำลังมีข่าวแนะนำอยู่ที่ slashdot.jp (เห็นว่ามีที่ /. ด้วย) ลองอ่านคร่าวๆ แล้ว เขาใช้วิธีส่ง tcp stream ไปๆ มาๆ ระหว่าง router หลายๆ ตัว ทำให้ตามจับยากว่ามาจากไหนกันแน่ อืม เอาไว้ว่างๆ ลองเล่นบ้างดีกว่า เห็นเขาคุยกันว่าไม่ข้าเท่าไหร่ ถึงต่อ irc ทิ้งไว้ทั้งวัน ก็ไม่หลุด จะว่าไปแล้วแค่ใช้พวก anonymous proxy นี่ก็ปกปิดตัวตนได้พอสมควรแล้วนะ แต่อันนี้ท่าทางจะตามยากกว่าเดิมแฮะ

08 สิงหาคม 2547

Groovy

วันนี้ไปอ่าน osnews.com กับ slashdot.jp แล้วพบเรื่องที่เหมือนกันโดยบังเอิญ คือ slashdot.jp พูดกันถึงงาน Lightweight Language Weekend ซึ่งเป็นงานสัมมนา เกี่ยวกับภาษาสคริปต์ต่างๆ ซึ่งถือว่าเป็นภาษาน้ำหนักเบา เช่น Perl, Python, Ruby ตามโปรแกรมมีพรีเซนท์ถึงข่าวคราว ความคืบหน้าต่างๆ มี pdf ของแต่ละภาษาให้อ่านด้วย และหนึ่งในนั้นก็คือภาษา Groovy ซึ่ง osnews.com ก็มีกำลังข่าวถึง

ก่อนที่จะอ่านรายละเอียด ลองดูตัวอย่างโค้ดแล้วรู้สึกว่าคล้าย Ruby มาก ทำให้เกิดความคิดแว่บขึ้นมาว่า ถ้าเหมือนอย่างนี้จะสร้างภาษาใหม่มาอีกทำไม แต่พอลองอ่านรายละเอียดดู ก็พบว่า Groovy มีเป้าหมายคือเป็นภาษาสคริปต์ที่รันจาก JVM คือ สร้างภาษาที่มีโครงสร้าง หรือไวยากรณ์ต่างๆ คล้ายกับ Python หรือ Ruby ซึ่งเรียนรู้ได้ง่าย และหยืดหยุ่นกว่า แต่ทำงานผ่าน JVM ทำให้สามารถเชื่อมต่อกับ Java ได้อย่างดี สามารถใช้คลาสไลบรารี่ของ Java ได้ทันที เหมาะกับพัฒนาโปรแกรมเล็กๆ ตอนนี้ Groovy ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนา (เวอร์ชัน 1 ยังไม่ออกเลย) แต่ในอนาคตดูเหมือนว่าอาจจะรวมกับ J2SE เห็นเขาคาดว่าประมาณเวอร์ชัน 6.0 หรือ 7.0 ตอนนี้เพิ่งเสนอเป็น JSR 241

05 สิงหาคม 2547

ครุฑ

วันนี้จะเข้าไปหาข้อมูลที่ wikipedia.org พอไปถึงหน้าแรก เห็นมีรูปครุฑอยู่ เลยลองแวะดูซะหน่อย ปรากฎว่ามีคนไปเขียนเรื่องบั้งไฟพญานาคไว้ เขาเลยเอารูปครุฑซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของประเทศ มาขึ้นหน้าแรก เรื่องบั้งไฟยังไม่ได้อ่านหรอก แต่ตามไปอ่านเรื่องครุฑในหัวข้อ Garuda ก่อน อ่านแล้วทำให้รู้ว่าญี่ปุ่นก็รู้จักครุฑ แต่เรียกว่า Karura ลองเอาไปหาในกูเกิ้ลดู เจอเว็บหนึ่งเลยได้รู้ว่าเขียนเป็นคันจิว่า 迦楼羅 (かるら) แถมเขายังบอกไว้ด้วยว่า คำนี้ในภาษาสันสกฤต เรียกว่า Garuda เลยทำให้รู้จักคำว่า 梵語 (ぼんご) ที่แปลว่าภาษาสันสกฤต ซึ่งเป็นคำที่อยากรู้มานาน เพราะญี่ปุ่นนั้นได้รับพุทธศาสนาผ่านทางจีน คำสันสกฤตต่างๆ ก็เลยถูกเลียนเสียงแบบจีนบันทึกไว้ด้วยตัวอักษรจีน (ญี่ปุ่นเรียกคันจิ) พอมาถึงญี่ปุ่น แม้ว่าจะใช้ตัวอักษรเดิม แต่เสียงอ่านเปลี่ยนไปตามแบบญี่ปุ่น เลยทำให้เพี้ยนไปจากสันสกฤตมากขึ้นอีก แต่ที่จริงก็เพี้ยนไปแบบที่ยังพอเห็นเค้าเดิมได้ อย่างเช่น ก่อนหน้านี้เคยได้ยินคำว่า Posatsu (菩薩-ぽさつ) ซึ่งแปลว่าพระโพธิสัตว์

นับว่าเป็นความรู้ใหม่ที่น่าสนใจ ต่อไปเวลาเล่าเรื่องเกี่ยวกับเมืองไทยให้คนญี่ปุ่นฟัง จะได้พูดถึงภาษาสันสกฤตได้ตรงๆ ซะที ปกติจะพูดถึงโดยอธิบายว่าเป็นภาษาอินเดียโบราณ เรื่องต่อไปที่อยากรู้คือภาษาบาลีเรียกว่าอะไรในภาษาญี่ปุ่น เพราะจะว่าไปแล้ว ด้วยความรู้ภาษาบาลีตอนม.ต้น รู้สึกว่าระบบการออกเสียงภาษาญี่ปุ่นจะคล้ายภาษาบาลีมาก เช่นเสียง -n (ん) ที่เหมือนนิคหิต หรือการใช้ระบบตัวสะกดคล้าย ตัวสะกดตัวตามแบบภาษาบาลี อยากรู้จริงๆ ว่าเชื่อมโยงกันยังไง หรือว่าแค่เหมือนกันโดยบังเอิญ ถ้าใครรู้ช่วยบอกทีนะครับ

04 สิงหาคม 2547

องค์บาก (อีกรอบ)

วันนี้ไปดูผลการจัดอันดับช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา องค์บากยังคงรั้งตำแหน่งที่ 7 ไว้ได้เหมือนเดิม ส่วนอันดับหนึ่งถึงหก ยังคงเป็นกลุ่มเดิม แค่สลับตำแหน่งกัน ว่าแต่ตอนนี้กำลังเริ่มสนใจอันดับ 8 ว่ายังคงอยู่ยั้งยืนยงมาได้ถึงสัปดาห์ที่ 13 แล้ว ทั้งที่ตอนนี้ทีวีก็เอามาทำเป็นละครฉายอยู่ทุกวันศุกร์ ความฮิตก็ยังไม่ตกเลย แต่เรื่องนี้ดูละครแล้ว รู้สึกเศร้าเกินไป เลยไม่ดูต่อ หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องราวความรักของหนุ่มสาวในช่วงม.ปลาย ที่จบลงด้วยความเศร้า เพราะผู้หญิงเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวแบบเฉียบพลัน เวลาผ่านไปอีกสิบกว่าปี ผู้ชายก็ยังไม่สามารถลืมเรื่องราวในอดีต ไม่สามารถมีความรักให้กับผู้หญิงคนไหนได้อีก..... ต่อจากนี้เป็นยังไงก็ไม่รู้แล้วล่ะ แหะๆๆ ได้ดูละครไปแค่สองตอนเอง ว่าแต่ชอบเพลงประกอบหนังอะ ไว้ต้องไปหามาฟังซะหน่อยแล้ว

02 สิงหาคม 2547

pTeX กับ xdvi

มีปัญหากับ xdvik เวลาต้องการดูไฟล์ dvi ที่มีภาษาญี่ปุ่นมาพักใหญ่แล้ว แต่ด้วยความยุ่ง จึงไม่ได้สนใจจะหาสาเหตุ คือ ไม่ได้ก็ไม่ได้ ใช้ dvipdfmx แปลงเป็น pdf ทีเดียวเลยก็ได้ (วะ) วันนี้ว่างๆ เลยมานั่งหาสาเหตุ ว่าทำไมใช้ไม่ได้ หาไปหามา ก็ไปเจอว่าไฟล์ /usr/share/texmf/xdvi/vfontmap ระบุที่อยู่ของ truetype font ภาษาญี่ปุ่นไว้ที่ /usr/X11R6/lib/X11/fonts/truetype ซึ่งตอนนี้ไม่มีอยู่แล้ว เพราะเปลี่ยนไปไว้ที่ /usr/share/fonts ตามข้อกำหนดใหม่ของ x.org 6.7.0 แล้วเจ้าของ ebuild ของ xdvik ยังไม่ได้เปลี่ยนตาม เป็นอันว่าคดีคลี่คลาย แล้วก็เลยถือโอกาสเปลี่ยนไปใช้ฟอนต์ภาษาญี่ปุ่นใหม่ Sazanami ซะเลย ตอนนี้เหลีอแต่ไปแจ้งบักให้เจ้าของ ebuild รู้ซะหน่อย คราวหน้าจะได้ไม่ต้องยุ่งอย่างนี้อีก