28 ตุลาคม 2547

OpenTTD Simutrans และ Locomotion

วันก่อนจัดการเคลียร์เครื่องเก่าลงวินโดว์ใหม่ หลังจากปล่อยมันมั่วๆ อยู่เป็นปี ระหว่างเคลียร์ก็เจอ Transport Tycoon Deluxe ที่เคยติดเมื่อสองปีก่อน เลยเอามาเล่นนิดหน่อย เสร็จแล้วมาดูเว็บ ทำให้รู้ว่าเดี๋ยวนี้เกมแบบ TTD นี่มีเยอะเหมือนกันนะ

  • OpenTTD -- เป็นโครงการพัฒนา TTD แบบโอเพ่นซอร์ส โดยอาศัยความรู้จาก TTDPatch ลักษณะโครงการคล้ายๆ กับ FreeCIV ทำให้ตอนนี้สามารถเล่น TTD บน Linux ได้แล้ว แต่ยังมีข้อจำกัดคือ OpenTTD ยังไม่มีกราฟิกเป็นของตัวเอง ต้องใช้ข้อมูลจาก TTD ดังนั้นคนที่จะเล่นได้ ก็คือคนที่มี TTD อยู่แล้วเท่านั้น
  • Simutrans -- เพิ่งเจอเมื่อวานนี้เป็นเกมแบบเดียวกับ TTD เลย คือ บริหารบริษัทขนส่งให้มีกำไรอยู่รอดได้ Simutrans นี่พัฒนาใหม่หมดเลย ดาวน์โหลดได้ฟรี แต่ไม่โอเพ่นซอร์ส มีเวอร์ชันบน Linux เหมือนกัน เมื่อคืนลองเล่นแล้ว สนุกดีเหมือนกัน ลักษณะการออกแบบรางรถไฟ หรือการกำหนดสัญญาณต่างๆ อาจจะสู้ TTDPatch ไม่ได้ ไม่สามารถสร้างเน็ตเวิร์คซับซ้อนมากๆ ได้ แต่ชอบระบบการขนส่งคนที่เหมือนจริงกว่า เพราะผู้โดยสารแต่ละคนมีจุดหมายของตัวเอง ว่าจะไปไหน จะไปเปลี่ยนรถที่ไหน ถ้ารถไฟขบวนไหนไม่ไปก็ไม่ขึ้น ไม่เหมือน TTD ที่รถขบวนไหนมาก็ขึ้นหมด ไม่มีการกำหนดว่าใครจะไปไหน ทำให้การบริหารรถแปลกๆ เพราะไม่จำเป็นต้องคิดมาก แค่หารถมาเพิ่มเพื่อให้ขนคนไปได้ก็พอ เกมนี้มีคนเล่นในญี่ปุ่นเยอะเหมือนกัน เพราะมีคนเอา Shinkansen มาทำเป็น addons ให้โหลดมาลองได้
  • Locomotion -- อันนี้เป็นเกมใหม่ล่าสุดของ Chris Sawyers คนพัฒนา TTD ดูแล้วเหมือนเป็นเวอร์ชันใหม่ของ TTD นั่นแหละ แต่คราวนี้เขาให้ Atari เป็นคนจัดจำหน่าย เลยเปลี่ยนชื่อเกมมั้ง อันนี้ยังไม่ได้ลอง เพราะไม่ฟรี เมื่อวานเข้าไปดูในเว็บหนึ่งเห็นว่าขายตั้ง 5000 กว่าเยน เพราะยังไม่วางขายในญี่ปุ่นโดยตรง ใช้นำเข้าจากอเมริกาเอาเอง (ในอเมริกา ราคาขายอยู่ที่ $29.99 รวมค่าส่งแล้วคงพอๆ กัน) อืม...เห็นราคาแล้วเอาไว้ก่อนล่ะกันนะ นอกจากนี้ไปอ่านพวกรีวิวแล้ว ส่วนใหญ่ยังไม่ประทับใจเท่าที่ควร จุดเด่นคือกราฟิกสวยกว่าเดิม แต่เรื่องระบบรางรถไฟดูเหมือนจะยังสู้ TTDPatch ไม่ได้ เลยยังไม่คิดจะลอง

26 ตุลาคม 2547

The Da Vinci Code

เพิ่งอ่านจบหมาดๆ เลยต้องเขียนถึงซักหน่อย ได้ยินชื่อหนังสือเล่มนี้มาซักพักใหญ่แล้ว แต่ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ เพราะเป็นโรคไม่กินเส้นกับภาษาอังกฤษในนิยาย จนมีคนชักชวนให้อ่านบอกว่าสนุก ลึกลับ น่าติดตาม เลยต้องหามาอ่านซักหน่อย The Da Vinci Code เป็นเรื่องที่มีพล็อตพื้นๆ พบได้ทั่วไป คือ พระเอกกับนางเอกต้องเอาไปพัวพันกับเหตุการณ์ฆาตกรรมภัณฑารักษ์ของพิพิธภัณฑ์ลุฟร์ ซึ่งโยงไปยังเรื่องลึกลับที่ทุกคนคาดไม่ถึง เหมือนหนังฮอลลีวูดทั่วๆ ไป แต่จุดสนใจคือรหัสหรือข้อความที่ภัณฑารักษ์ทิ้งไว้ก่อนตาย ตัวเอกของเรื่องจะต้องถอดรหัสต่างๆ ที่ถูกทิ้งเอาไว้ เป็นจุดกระตุ้นความสนใจ เพราะทำให้อยากรู้ว่ามีอะไรซ่อนอยู่่ นอกจากนี้เนื้อหายังเชื่อมโยงกับสิ่งของและสถานที่ที่มีอยู่จริง และเกี่ยวข้องกับต้นกำเนิดของคริสตศาสนา ผมว่าผู้เขียนต้องทำงานหนักมาก เพื่อเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ เข้าด้วยกัน เพื่อสร้างจุดเด่นของนิยาย

ส่วนเรื่องภาษาอังกฤษ ศัพท์ต่างๆ ไม่ยากอย่างที่คิด แต่ที่ลำบากคือมีภาษาฝรั่งเศสเยอะมาก เพราะเหตุการณ์ค่อนเรื่องเกิดในฝรั่งเศส ส่วนใหญ่ต้องเดาเอาจะบริบทหรือรากศัพท์ เพราะคนแต่งแกไม่ยอมแปลไว้ให้เลย เอ..หรือว่าจงใจให้เดาก็ไม่รู้ ก่อนอ่านนิยายเล่มนี้ก็มีคนเตือนเหมือนกันว่า เนื้อเรื่องเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ในยุโรป และคริสตศาสนา ทำให้เข้าใจยาก แต่พออ่านแล้ว ไม่ยากอย่างที่คิด เรื่องที่พูดถึงส่วนใหญ่เคยได้ยินมาแล้ว (จากในห้องเรียนสมัยม.ต้น และหนังสือทั่วๆ ไป) ส่วนเรื่องที่ลึกจริงๆ ก็มักจะมีคำอธิบายตามมาเสมอ (เพราะตัวเอกในเรื่องก็ไม่รู้เหมือนกัน) เลยไม่ยากอย่างที่คิด

อ่านจบแล้ว อยากไปเที่ยวฝรั่งเศสจริงๆ ถ้าได้ไปคงต้องพกหนังสือเล่มนี้ไปด้วย แล้วก็เที่ยวตามหนังสือเลย อืม...แต่อ่านหนังสือแปลอีกซักรอบก็คงจะดีนะ เพราะรอบแรกรีบอ่านไปหน่อย คงตกรายละเอียดไปเยอะ แหะๆๆ มัวแต่อยากรู้ ว่าเรื่องมันจะเป็นยังไง ใครอยู่เบื้องหลัง

25 ตุลาคม 2547

NeoOffice/J

วันนี้เพิ่งไปเจอว่า NeoOffice/J ออกเวอร์ชันใหม่แล้ว คือ 1.1 Alpha 2 สนับสนุนฟีเจอร์ของ OpenOffice.org 1.1.2 ลองใช้ดูแล้ว ดีทีเดียว หลังจากเดิมที่ไม่ประทับใจเวอร์ชัน 0.8.4 เท่าไหร่

NeoOffice/J เป็นโปรแกรมออฟฟิสแบบ native สำหรับ Mac OS X ที่พอร์ตมาจาก OpenOffice.org ทำให้ใช้งานสะดวกกว่า OpenOffice.org ที่ปัจจุบันยังไม่มีเวอร์ชันที่เป็น native ต้องผ่านใช้ X11 ซึ่งไม่สามารถใช้คุณสมบัติต่างๆ ของ Mac OS X ได้อย่างเต็มที่ เช่น ระบบอินพุตภาษาญี่ปุ่น ก็ต้องหา kinput2 หรือ uim มาใช้เอง อย่างไรก็ดี คาดว่า OpenOffice.org เวอร์ชันต่อไป ก็จะสนับสนุน Mac OS X แบบ native แล้วล่ะ (โดยคงเอาซอร์สจาก NeoOffice/J ไปรวมด้วย)

23 ตุลาคม 2547

แผ่นดินไหว

ปีนี้ญี่ปุ่นเป็นอะไรเนี้ย... ไต้ฝุ่นแรงๆ มาตั้งหลายลูก เรื่อยๆ ตั้งแต่เดือนมิถุนา จนเข้าเดือนตุลาก็ยังไม่หมด อาทิตย์ที่ผ่านมา ก็เพิ่งเป็นไต้ฝุ่นลูกใหญ่มากผ่านประเทศไป มีทั้งน้ำท่วม แผ่นดินถล่ม บ้านพัง คนเสียชีวิตไปเยอะเลย วันนี้มีแผ่นดินไหวอีกแล้ว เกิดที่จังหวัดนีกะตะทางตอนเหนือของประเทศ ความแรงครั้งแรกอยู่ที่ 6.8 ริกเตอร์ ตอนนี้ยังมีอาฟเตอร์ชอคตามมาเรื่อยๆ เห็นว่าจะมาต่อกันอีกหลายวัน แผ่นดินไหวนี้ทำเอารถไฟชินคันเซ็นตกราง บ้านพัง แถมมีแผ่นดินถล่มด้วย เนื่องจากฝนเพิ่งหยุดตก ดินยังอ่อนอยู่ ต่อไปจะมีภัยธรรมชาติอะไรมาอีกเนี้ย.. ตอนนี้คงต้องเริ่มเตรียมการรับมือไว้บ้างแล้ว

22 ตุลาคม 2547

30 ปี ภาษา Pascal

วันนี้เจอข่าวใน ./ พูดถึงงานประชุมในโอกาสครบรอบ 30 ปี ภาษา Pascal อืม... 30 ปี แล้วหรือเนี้ย ช่วง 4-5 ปีนี้ Pascal หายไปจากชีวิตเลยแฮะ ทั้งๆ ที่เรียนภาษานี้เป็นภาษาที่สอง และอยู่กับภาษานี้มาตลอด หลังจากเริ่มต้นเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Basic ด้วย basica ที่มากับ MS DOS สมัยนั้น Basic ยังมีเลขบรรทัดอยู่ ใช้ goto กันแหลกเลย พออยู่ม.1 ก็เริ่มอ่านหนังสือภาษา Pascal เอง ขนาดวันที่โรงเรียนหยุดช่วงสอบปลายภาค ก็รีบๆ อ่านหนังสือที่จะสอบให้จบๆ ไป เพื่อจะได้อ่านหนังสือ Pascal ต่อ ตอนนั้นยังใช้ Turbo Pascal 3 อยู่ กี่ปีแล้วเนี้ย.... จากนั้นก็ใช้ Pascal มาตลอด มี Turbo Pascal 5.5 ออกมาสนับสนุน OO ก็ลองหาหนังสือมาอ่านดู แต่ก็ไม่เข้าใจ ว่ามันคืออะไร ต่างจากเดิมยังไง จนเข้ามหาวิทยาลัย ถึงจะได้มาจับ C แล้วความรู้สึกก็คือ ภาษาอะไรเนี้ย ทำไมมันสร้างความสับสนได้ง่ายขนาดนี้ เพราะ Pascal มีระบบระเบียบ ไม่ค่อยสับสนเท่าไหร่ ช่วงอยู่เรียนมหาวิทยาลัยนี้ก็เริ่มห่างจาก Pascal ไปหน่อย มีภาษาใหม่ๆ เข้า รวมทั้ง Java แต่พอเรียนจบก็ได้ใช้ Pascal หาเงินอีกแหละ แต่เปลี่ยนไปเป็น Delphi แทน จนมาอยู่ญี่ปุ่นนี่แหละ ถึงได้ตัดขาดจาก Pascal ไปเลย ช่วงนี้ใช้แต่ C, Prolog แล้วก็ Java นิดหน่อย... ว่าแล้ว สงสัยต้องไปหา Pascal มาลองเขียนรำลึกความหลังสักหน่อยแล้ว

20 ตุลาคม 2547

Tekitou -- 適当

เมื่อวานไปนั่งประชุมมา เกือบขำกลางห้องประชุม เพราะคำว่า tekitou นี่แหละ คำนี้ถ้าดูตามพจนานุกรมจะแปลว่าเหมาะสม แต่ถ้าพอเป็นสแลงแล้ว กลับมีความหมายตรงข้าม คือแปลว่ายังไงก็ได้ หรือส่งเดช แถมสแลงเนี้ยใช้บ่อยกว่าด้วย ทำให้บางคนเข้าใจผิดไปเลย ที่นี้ที่เกือบหลุดในที่ประชุม ก็เกิดจากอาจารย์แกอ่านประกาศของมหาวิทยาลัยให้ฟัง ตรงประโยคประมาณว่า "ผู้ที่มีผลงานเหมาะสม จะได้พิจารณาให้เลื่อนตำแหน่ง" แล้วเขาใช้คำว่า tekitou ซึ่งก็ถูกต้อง แต่ใช้บ่อยมากเวลาในเอกสารที่เป็นทางการ แต่สำหรับเรา พอฟังเพลินๆ ก็แปลได้ว่า ผู้ที่มีผลงานยังไงก็ได้ จะได้พิจารณาให้เลื่อนตำแหน่ง นึกแล้วตลกจนเกือบขำออกมา

18 ตุลาคม 2547

IE: User vs Developer

ช่วงนี้เปลี่ยนมาเขียนหัวข้อเป็นภาษาอังกฤษเพื่อความเท่ห์ :P จริงๆ แล้วมีคนบอกมาว่าขอหัวข้อภาษาอังกฤษก็ยังดี วันนี้เจอข่าวที่ ITMedia เกี่ยวข้องกับการใช้งานโปรแกรม Microsoft Internet Explorer ซึ่งพบว่าคนใช้ IE ลดลงประมาณ 2% โดยส่วนใหญ่หันไปใช้ Firefox กับ Opera แทน แต่ก็ยังไม่สามารถเลิกใช้งานได้ทันที เนื่องจากบริการส่วนใหญ่ ยังบังคับให้ใช้ IE เนื่องจากไม่สนับสนุนบราวเซอร์แบบอื่นๆ พอไปถามนักพัฒนาเว็บ ก็ได้ความว่า ปัญหาเนื่องจากการทำให้สนับสนุนบราวเซอร์ตัวอื่นๆ จะมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น อ่านแล้วก็ อืม... ในงานที่จำเป็นจริงๆ ก็ยอมรับได้ล่ะนะ (ส่วนตัวแล้วคิดว่าน้อยมากๆ ที่จำเป็น) แต่บางทีพยายามบอกว่าต้องใช้ IE ทั้งๆ ที่ไม่เป็นจำเป็นเลย ใช้บราวเซอร์ตัวอื่นๆ ก็เปิดได้เหมือนกัน อย่างกรณี thaigov.go.th

เนื่องจากส่วนตัวไม่ใช่นักพัฒนาเว็บ เคยแต่ทำเล่นๆ กับทำเว็บเฉพาะกิจ แต่ในฐานะนักท่องเว็บ บางครั้งก็สงสัยว่า ลูกเล่นต่างๆ บนเว็บนั้นจำเป็นแค่ไหน เพราะรู้สึกว่าเว็บไทยส่วนใหญ่ ใช้ลูกเล่นเยอะมากๆ แต่ไม่จำเป็น ทำให้เข้าถึงข้อมูลได้ช้ากว่าเดิมด้วย อย่างพวกรูปภาพเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา หรือ Flash ต่างๆ ผมว่าลด ละ เลิก บ้างก็ได้มั้ง ไม่เห็นมีประโยชน์เลย เสียเวลาทำ เสียเวลาโหลดเปล่าๆ ผมเองไม่เคยดู Flash ที่ทำไว้ที่ทางเข้าเว็บเลย เพราะเข้าไปก็เพื่อหาข้อมูล แต่ต้องมาเจออะไรก็ไม่รู้ที่ต้องการ ทำให้หงุดหงิดเปล่าๆ ผมว่าเน้นที่เนื้อหาดีกว่า เนื้อหาดีก็มีคนมาดูเองแหละ หรือจะออกแบบสวยๆ ก็เน้นให้อ่านง่ายๆ ดีกว่า เว็บที่ใช้ลูกเล่นหรือสคริปต์อย่างประโยชน์ เท่าที่เห็นก็ต้องยกให้ Gmail กับ Blogger (บริษัทเดียวกันนั่นแหละ) เขาใช้ Javascript เพื่อความเร็วในการทำงาน หรือลดโหลดของเซริฟเวอร์จริงๆ ไม่ใช่เพื่อลดความเร็ว หรือทำให้งานช้าลง เฮ้อ...วันนี้บ่นอีกแล้ว ให้ความรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตาลุงแก่ที่ไม่มีศิลปะในหัวใจ จะเอาแต่เนื้อหาไม่สนใจสิ่งประกอบ (อย่าว่าแต่เว็บเลย ขนาดศาสนาผมก็ยังรับแต่แก่นเลย พวกเปลือกศาสนายังไม่ค่อยอยากได้เลย) ว่าแต่บ่นแล้ว ขอบ่นอีกหน่อย คือว่าเวลาเข้าเว็บของหน่วยงานราชการไทย สิ่งแรกที่ต้องเจอคือ ประวัติหรือผลงานของผู้บริหาร เอ่อ...อยากจะบอกว่าไม่มีก็ไม่เป็นไรมั้ง แล้วเอาแผนงานหรือนโยบาย เอกสารเผยแพร่ต่างๆ ของหน่วยงานมาใส่ไว้ดีกว่าไหม บางหน่วยงานเข้าไปเจอแต่ประวัติหน่วยงาน แล้วก็ตามด้วย ประวัติ คุณงามความดีของผู้บริหาร แล้วก็ไม่มีอะไรแล้ว เข้าไปแล้วก็งงว่าทำมาทำไม อย่างนี้ไม่มีเว็บก็คงไม่มีใครว่ากระมัง (แรงไปไม่เนี้ยตู) พอแล้วดีกว่า....

13 ตุลาคม 2547

秋桜 (Akizakura)

เริ่มเข้าฤดูใบไม้ร่วงแล้ว แต่ปีนี้อากาศดูเหมือนจะอุ่นกว่าทุกปี ใบไม้เลยยังไม่เริ่มเปลี่ยนสี แถมอาทิตย์ที่แล้วยังมีพายุมาส่งท้ายอีกหนึ่งลูกด้วย แต่ช่วงนี้ดอกดาวกระจายกำลังบาน เมื่อวันหยุดที่ผ่านมาเลยไปถ่ายรูปแถวสวน Expo'70 (ที่เดิม) มาอีกแล้ว สวนนี้ไปได้บ่อยๆ เพราะขี่จักรยานแค่ 10 นาทีจากแล็บ ก็ถึงแล้ว

ว่าแต่ทำไมดอกดาวกระจายของญี่ปุ่นส่วนใหญ่เป็นสีชมพูออกบานเย็นก็ไม่รู้ ไม่ค่อยเห็นพันธุ์ที่เป็นสีเหลืองออกส้มๆเหมือนแถวบ้านเรา ด้วยสีและความที่ออกดอกสะพรังพร้อมกันกระมัง ทำให้คนญี่ปุ่นเรียกดอกดาวกระจายว่า อะกิซะกุระ หรือ ซะกุระประจำฤดูใบไม้ร่วง เพราะคงคล้ายกับดอกซะกุระที่มีสีชมพูอ่อน และออกพร้อมในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ

12 ตุลาคม 2547

Ubuntu Linux

วันก่อนลองเอา Ubuntu Linux มาลงที่บ้าน Ubuntu เป็นดิสตริบิวชันที่สร้างบน Debian เวลาติดตั้งก็จะเหมือน Debian ทุกประการ (ใช้ตัวติดตั้งใหม่) แตกต่างเฉพาะส่วนแพกเกจซึ่งเขาจะทำเอง และตั้งค่าต่างๆ มาให้แล้ว เพราะฉะนั้นจะไม่มีการเลือกแพกเกจ แต่จะบังคับลงตามกำหนดก่อน พอลงเสร็จแล้วค่อยไป apt-get เพิ่มเอาเอง ก็ดีเหมือนกันนะ เรียบง่ายดี ไม่ยุ่งยาก สะดวกกว่าลง Debian โดยตรง ที่ต้องเลือกแพกเกจพวก X หรือ Gnome เอง กว่าจะติดตั้งเสร็จก็เหนื่อยแล้ว

10 ตุลาคม 2547

Skype.com

เห็นข่าวเกี่ยวกับ Skype.com ใน slashdot.jp มาหลายวันแล้ว แถมวันก่อนรุ่นน้องที่แล็บมาชวนให้ลองเล่น เลยเอามาลองซักหน่อย Skype เหมือนโปรแกรมพวก instant message ทั่วไป แต่เน้นให้ใช้สำหรับพูดคุยแทนโทรศัพท์ โดยบอกข้อดีมาเพียบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณภาพเสียง ความสามารถทำงานผ่านไฟร์วอลล์แบบต่างๆ แถมยังมีให้ใช้ทั้งบน Windows, Mac แล้วก็ Linux ซึ่งแตกต่างจากโปรแกรมตัวอื่นๆ ที่มักจะเน้นแต่ Windows เท่าที่ลองใช้ดู (ในประเทศญี่ปุ่น) ก็รู้สึกว่าเสียงชัดดี ไม่มีติดขัด แถมคุยกันมากกว่าสองคนก็ได้ นอกจากนี้ที่น่าสนใจคือบริการ SkypeOut ซึ่งต้องเสียตังค์ แต่ใช้โทรไปยังเบอร์โทรศัพท์ได้ ในราคาที่ถูกมาก อย่างโทรไปกรุงเทพ ก็นาทีละประมาณ 0.05 ยูโร ทำให้น่าสนใจอย่างยิ่ง เอาไว้ต้องลองใช้โทรกลับบ้านบ้างแล้ว

วันก่อนลงใช้ SkypeOut แล้ว เสียงชัดดี แต่มีดีเลย์นิดหน่อย พูดต่อเนื่องแบบโทรศัพท์ไม่ได้ แต่ก็ยังคุยกันรู้เรื่อง โอเคแหละ แหะๆๆ เพราะราคาถูก

Mac ในมุมมองของผู้ใช้ PC

วันนี้เจอบทความของคุณอานันท์แห่ง AnandTech พูดถึง Mac ในมุมของคนที่ใช้ PC เป็นหลัก บทความยาวมาก ยังอ่านไม่จบเลย แต่เท่าที่อ่านตอนต้นๆ เขาค่อนข้างจะมีความรู้สึกที่ดีต่อ Mac OS X ไว้อ่านให้จบก่อนแล้วค่อยมาสรุปล่ะกัน ทิ้งลิงก์ไว้ก่อน

04 ตุลาคม 2547

Bookmark

วันนี้เจอลิงก์น่าสนใจหลายอัน แต่ยังไม่มีเวลาอ่าน มัวแต่จัดการเครื่องคุณเลขาอยู่ จดไว้ก่อนล่ะกัน

Windows XP SP2

ไม่ได้เขียน blog ซะตั้งนานหลังจากไปเป็นไกด์จำเป็นพาอาจารย์ และรุ่นน้องเที่ยวที่เมืองไทย ไปเมืองไทยครั้งนี้ไม่ค่อยได้อยู่บ้านเลย เพื่อนก็ไม่ได้เจอ เพราะมัวแต่เป็นเที่ยว วันนี้เห็นข่าวที่ impress watch เรื่องที่ไมโครซอฟท์เอาซีดีรอม Service Pack 2 ของ Windows XP ไปวางแจกไว้ตามที่ทำการไปรษณีย์ทั่วญี่ปุ่น ดูท่าทางไมโครซอฟท์จะจริงจังกับเรื่องความปลอดภัยของระบบมากขึ้น ที่จริงก่อนอ่านข่าว ก็ได้รับแจกมาตั้งแต่วันศุกร์แล้วล่ะ เผอิญไปช่วยลุงบ๊อบส่งจดหมาย แล้วเห็นมีวางแจกอยู่เลยหยิบติดมือมาด้วย ตอนแรกไม่คิดว่าจะเป็น SP2 หรอก เพราะเขาเขียนตัวใหญ่ๆ ว่าเป็นซอฟท์แวร์จัดการความปลอดภัยให้กับคอมพิวเตอร์ เลยคิดว่าใครทำมาแจกเพื่อโฆษณาซะอีก ว่าแต่เอามาแล้วยังไม่ได้ลงเลย เพราะตัวเองไม่ค่อยได้ใช้วินโดว์ ส่วนคนในแล็บก็ยังกลัวๆ ว่าจะส่งผลให้โปรแกรมที่ใช้อยู่ทำงานไม่ได้ เลยยังไม่ได้ลงกัน